บทที่ 4 สามีคืนเดียว (75%)

“ผมยังไม่อิ่ม…”

คนโอหังเอ่ยอย่างหน้าไม่อาย อาการอยากจัดๆ เพราะขาดผู้หญิงมานานนับเดือนทำให้เจ้าของร่างทรงพลังไม่คิดจะฟังคำทัดทานใดๆ ทั้งสิ้น เอาไว้ให้เขา ‘เสร็จสม’ และ ‘อิ่มเอม’ ก่อนแล้วกัน อีกทั้งรอให้ไฟมาก่อนค่อยดู ว่าแม่ลูกหมูน้อยหุ่นอวบอั๋นใต้ร่างเป็นใครกันแน่ เป็นคนที่ไอ้เพื่อนตัวดีส่งมาบรรณาการ แต่โคตรเล่นได้สมบทบาทเหมือนว่าไม่ได้ถูกจ้างมาเพื่อการนี้ หรือว่าเป็นใครสักคนที่โดนวางยาปลุกเซ็กส์แล้วดันเข้าห้องผิดจริงๆ

“จะเอายังไงก็ว่ามา”

“ก็ไม่เอายังไง…”

วาจาโต้กลับฟังดูไม่ยี่หระ จนคนที่เฝ้ารอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อแทบไปไม่เป็น หากไม่เกรงใจวัยของตัวเองนางคงเต้นผาง หรือไม่ก็ตีอกชกลมให้มันรู้แล้วรู้รอด

การตอบโต้ด้วยแรงอารมณ์ที่เหมือนจะไม่จบไม่สิ้นนั้น ทำให้คนที่คิดว่าตัวเองไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย แถมยังเพลียจัดจนนึกอยากนอนแบบยาวๆ เริ่มรู้สึกตัว

บ้าจริง! ใครมาพูดอยู่บนหัวเธอ คนจะหลับจะนอนไม่รู้หรือไง…วะ?

ฮึ่ยยยย…ขอใช้คำหยาบหน่อยเถอะ!

หลังจากบ่นงึมงำในใจด้วยความหงุดหงิดกับการถูกรบกวนเวลานอน ปานระพีก็มุดซีกหน้ายุ่งเหยิงลงไปกับหมอนใบโต ทว่าเสียงทุ่มเถียงที่เต็มไปด้วยแรงอารมณ์ยังคงดังขึ้นไม่ขาดสาย

ฮื่อ…คิดไปคิดมามันคงเป็นแค่ความฝันล่ะมั้ง ใครมันจะบ้ามาเถียงกันในห้องนอนคนอื่นกันเล่า แต่ทำไมเสียงในความฝันมันถึงได้คุ้นหูอะไรเช่นนี้

โดยเฉพาะฝ่ายชาย น้ำเสียงฟังดูไว้ตัว เกรี้ยวกราด เย่อหยิ่ง และจองหองสิ้นดี

“ผมไม่แต่ง!”

มหรรณพ นิธิธาดา ประกาศกร้าว แค่โดนพ่อบังคับมางานเปิดกิจการของญาติทางฝั่งแม่เขาก็หัวเสียมากพอแล้ว แต่พอลืมตาขึ้นมาในตอนเช้า แล้วพบว่าตัวเองนอนอยู่กับ ‘ใคร’ เขาก็ยิ่งเกรี้ยวกราด อีกทั้งยังนึกอยากจะอาละวาดให้รีสอร์ตของเพื่อนรักพังพินาศ ทว่ายังไม่ทันจะจับต้นชนปลาย ยังไม่ทันได้โทรไปถามไถ่ถึงเด็กที่เพื่อนส่งมาให้เมื่อคืน ประตูห้องก็ถูกเคาะ แล้วถือวิสาสะเปิดออก พร้อมกับการปรากฏตัวของคุณหญิงแม้นมาศ

“แต่หลานต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่ทำลงไป”

คุณหญิงแม้นมาศ พงศ์วิริยะสกุล ยืนกรานเสียงแข็ง

“งั้นก็บอกมา ว่าอยากได้เท่าไหร่ ผมจะเขียนเช็กให้” คนโอหังเอ่ยหน้าตาย

“อย่ามาใช้นิสัยเอาเงินฟาดหัวคนอื่นแบบนี้นะ!” คราวนี้คนแก่ชักเสียงแข็งด้วยความไม่ชอบใจ “แม่เราสอนมายังไงถึงได้กลายเป็นคนนิสัยเสียแบบนี้”

“อย่ามาพาดพิงถึงแม่ผม! เพราะท่านสอนผมมาดี แต่สันดานผมมันเป็นแบบนี้…ช่วยไม่ได้” ชายหนุ่มลอยหน้าไหวไหล่ พร้อมเอ่ยอย่างพาลๆ เพราะไม่ลงรอยกันมาแต่ไหนแต่ไรเขาจึงไม่คิดจะถนอมน้ำใจคนฟัง

“ยังไงหวงก็ต้องแต่งงานกับยายแพร”

“อย่ามายัดเยียดเด็กในปกครองของคุณให้ผม!” เสียงห้วนเข้มตอกกลับอย่างไม่สบอารมณ์

“แต่หวงทำน้องเสียหาย หวงต้องรับผิดชอบ”

“คุณก็น่าจะรู้นี่ ว่าผมไม่มีทางเอายัยเด็กกะโปโลนั่นทำเมีย”

เสียงกร้าวกระด้างสวนกลับด้วยความฉุนเฉียว ไร้ซึ่งความเกรงใจผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นยาย ด้วยแทบไม่มีความผูกพันใดๆ ยกเว้นสายเลือดที่ไหลเวียนอยู่ในตัวเขา

“ยายจะไปรู้เหรอ ได้ข่าวว่าเรามั่วผู้หญิงไม่ซ้ำหน้านี่”

“ถึงผมจะติดเซ็กส์ ผมก็เลือก และไม่คิดจะเอาเด็กนั่นมาทำเมีย เด็กเนิร์ดหัวอ่อน ว่านอนสอนง่ายจนเหมือนหุ่นยนต์แบบนั้น ไม่ใช่สเปกผม ถ้าต้องเอากับยัยนั่น ‘ช่วยตัวเอง’ เสียยังดีกว่า”

วาจาหน้าไม่อายในตอนท้ายทำให้คนฟังอ้าปากค้าง ก่อนจะสวนกลับด้วยความหมั่นไส้

“เอาไม่เอา หวงก็ทำให้น้องตกเป็นเมียแล้ว”

“นั่นเพราะผมคิดว่าเธอคือ ‘เด็ก’ ที่เพื่อนผมส่งมาให้ต่างหากล่ะ ถ้ารู้ว่าเป็นเด็กคุณผมไม่มีทางแตะต้องเด็ดขาด”

“จะยังไงก็ช่าง ยายขอสั่งให้หวงแต่งงานกับยายแพร” ครั้นเห็นว่าใช้ไม้อ่อนกับคนเย่อหยิ่ง จองหอง และทิฐิแรงกล้าไม่ได้ นางจึงหยิบยกเอาไม้แข็งขึ้นมาใช้

“หึ…คิดหรือไง ว่าจะบังคับผมได้”

“ก็ถ้าอยากลองดีกับยายก็เชิญก้าวขาออกไปจากห้องนี้เลยสิ”

น้ำคำท้าทายทำให้ชายหนุ่มกระตุกมุมปากนิดๆ ยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ แล้วเตรียมจะก้าวขาออกจากห้องหรูของรีสอร์ต หากว่าเสียงของอีกฝ่ายจะไม่ดังขึ้นสำทับเสียก่อน

“แต่ออกไปแล้ว ก็ช่วยหาคำตอบดีๆ ให้นักข่าวที่หน้ารีสอร์ตด้วยล่ะ เพราะถ้าตอบคำถามไม่เนียนงานนี้นักข่าวได้เล่นข่าวของเราไม่เลิกแน่ๆ”

หลังจากยืนหันหลังบดกรามกับวาจาที่เปรียบเสมือนหมัดฮุกกลางอากาศ เพราะเขาไม่ถูกกับนักข่าว ร่างสูงสง่าก็หันมาเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย แล้วเอ่ยวาจาเรียบนิ่ง

“หึ…จะบอกอะไรให้นะ” เขาเว้นระยะห่าง แค่นยิ้ม แล้วเอ่ยต่อด้วยท่าทางสุดแสนจะโอหัง “เด็กคุณน่ะโดนวางยาปลุกเซ็กส์ แล้วมาหลอกอึ๊บผม”

วาจาโจ๋งครึ่มทำให้คุณหญิงยกมือขึ้นทาบอก หน้าร้อนวาบ นึกไม่ถึงเลยว่าหลานชายจะเอานิสัยฝรั่งมังค่ามาใช้แบบนี้ แต่จะโทษใครได้ ความผิดส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะนางเอง หากนางไม่เอาแต่ทิฐิเป็นที่ตั้ง ไม่ตัดเป็นตัดตายกับแม่ของมหรรณพ นางคงมีโอกาสได้สอนหลานชายในวัยเด็ก ในช่วงเวลาที่เด็กน้อยเคว้งคว้างเพราะขาดแม่ไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ และหว้าเหว่เมื่อพ่อเอาแต่ตรากตรำทำงานเพื่อให้ลืมแม่

“หลานสาวยายเป็นผู้ถูกกระทำต่างหากล่ะ ยายแพรถูกเราข่มเหงทั้งที่เพิ่งเด็กอยู่แท้ๆ แล้วเรายังมีหน้ามาปัดความรับผิดชอบอย่างนี้ มันใช้ได้ที่ไหน”

วาจาท้วงติงแกมตำหนิของคนแก่ทำให้เขาเหยียดปากเป็นรอยยิ้มหยัน

หึ…หลานยายงั้นเหรอ?

แล้วเขาล่ะวะ?

เขาก็เป็นหลานของอีกฝ่ายเหมือนกันนั่นแหละ ถึงแม้จะไม่อยากเป็นก็เถอะ

ใช่ เขาไม่เคยอยากเป็นหลานของผู้หญิงใจร้ายตรงหน้าเลยสักนิด นั่นก็เพราะว่าคุณหญิงแม้นมาศเป็นแม่แท้ๆ ของมารดาของเขา แต่ที่ร้ายสุดคืออีกฝ่ายเป็นสาเหตุให้แม่ของเขาตรอมใจตาย เพราะความเจ้ายศเจ้าอย่าง อยากให้ลูกสาวได้สามีสูงศักดิ์ มากกว่าชายที่ย้ายถิ่นฐานไปทำธุรกิจในเมืองฝรั่งมังค่าอย่างพ่อของเขา จึงกีดกันความรักของทั้งคู่ทุกวิถีทาง ที่สุดแม่ของเขาก็ตัดสินใจหนีตามพ่อไป จนกระทั่งมีเขา ท่านจึงได้หวนกลับมาขอขมาคุณหญิง แต่หญิงผู้สูงศักดิ์กลับไม่ให้อภัย มิหนำซ้ำยังลั่นวาจาให้แม่เลิกกับพ่อ แต่แม่ก็ยังยืนกรานที่จะเลือกพ่อ สุดท้ายคุณหญิงจึงตัดแม่ตัดลูก และลั่นวาจาว่าห้ามให้แม่ของเขามาเหยียบที่บ้านอีกเป็นอันขาด

บทก่อนหน้า
บทถัดไป